เมื่อเราเริ่มมองหาประกันภัยรถยนต์ พอค้นหาข้อมูลก็ต้องเจอกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันชั้น 2+ รวมถึงประกันอีกหลายหลายประเภท ซึ่งบางครั้งก็สับสนถึงความแตกต่างของแต่ละประเภทของประกันภัย ซึ่งวันนี้รู้ใจมาเฉลยความแตกต่างของประกันชั้น 1 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร พร้อมแชร์วิธีเลือกประกันรถยนต์ให้เหมาะกับคุณและคุ้มค่าเบี้ยประกันที่สุด จะเลือกยังไงดี รู้ใจมีคำตอบ
1. ประกันรถยนต์ชั้น 1
สำหรับการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นรูปแบบการทำประกันที่ครบถ้วน สมบูรณ์ที่สุด ครอบคลุมความคุ้มครองแทบทุกอย่าง แต่ตามมาด้วยค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เราเลือกนำรถเข้ารับการซ่อมแซมในรูปแบบไหน ระหว่างการทำประกันอู่เอกชนหรือการทำประกันในการซ่อมแซมของศูนย์รถยนต์โดยตรง หรือประวัติในการขับรถยนต์ ทำให้ราคาประกันชั้น 1 แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
โดยความคุ้มครองของประกันชั้น 1 นั้นจะคุ้มครองเอาไว้รอบด้านตามแต่จำนวนทุนเอาประกันที่มีอยู่ โดยความคุ้มครองรวมไปยังการชนทั้งแบบที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี บางบริษัทอาจมีความคุ้มครองกระจกรถยนต์เสียหาย เรียกว่า สะดวกที่สุดและดูแลกันอย่างดีสุด ๆ แต่ก็ต้องแลกมากับเบี้ยประกันที่สูงที่สุดอีกด้วย
2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 2
การทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยความแตกต่างของความคุ้มครองที่เกิดขึ้นคือประกันชั้น 2 จะครอบคลุม กรณี ไฟไหม้ และรถถูกโจรกรรม และคุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณี
แต่หากใครต้องการเลือกความคุ้มครองที่ลดหลั่นลงมาจากชั้น 1 และมากกว่าชั้น 2 ทางเลือกการทำประกันชั้น 2+ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะชั้น 2+ จะครอบคลุมในทั้งการชนแบบมีคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองรถยนต์ในกรณีรถสูญหายหรือถูกโจรกรรม รถยนต์ไฟไหม้ รวมถึงจากน้ำท่วมด้วย
คุณเหมาะกับประกันรถยนต์แบบไหน?
เพื่อเป็นการช่วยตัดสินใจให้ง่ายมากขึ้น สำหรับการค้นหารูปแบบประกันภัยที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ คุณลองตอบคำถามในแต่ละข้อต่อไปนี้ แล้วมาเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะกับคุณกัน
1. สภาพแวดล้อมรอบบ้านเป็นยังไง?
การทำประกันชั้น 2+ หรือชั้น 2 จะให้ความคุ้มครองการชนกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้นเท่านั้น หากบ้านของท่านคือเมืองใหญ่ จอดรถแต่ละครั้งก็จอดในแต่ตัวอาคารอย่างเดียว ในรูปแบบนี้ประกันชั้น 2+ หรือชั้น 2 ก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว
แต่ถ้าหากคุณอยู่ในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล มีโอกาสประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอยู่บ่อยครั้ง เช่นกิ่งไม้หัก ต้นไม้ล้ม รวมไปถึงสุนัข หรือ สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ วิ่งตัดหน้ารถ ซึ่งถ้าหากเป็นในกรณีนี้ การเลือกทำประกันชั้น 1 เพื่อการดูแลรถย่อมให้ความอุ่นใจได้มากกว่า เพราะโอกาสเช่นนี้มักอาจเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีอยู่บ่อยครั้งก็เป็นได้
2. ขับรถบ่อยแค่ไหน?
รถของคุณมีวัตถุประสงค์การใช้งานในรูปแบบไหน หากแค่ขับรถยนต์เดินทางไปมาระหว่างที่ทำงานและที่บ้านหรือออกไปซื้อของเพียงเล็กน้อยแล้วก็กลับมา การเลือกทำประกันชั้น 1 ก็ดูเป็นเรื่องที่เกินความจำเป็น แต่ถ้าคุณต้องออกต่างจังหวัดบ่อยครั้ง และใช้รถสำหรับการทำงานอยู่เสมอ ประกันชั้น 2+ หรือชั้น 2 น่าจะไม่ครอบคลุมความต้องการของคุณได้อย่างครบถ้วน ดังนั้นรูปแบบการใช้งานรถยนต์ของคุณจึงถือเป็นตัวกำหนดรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการมองหาประกันภัยสำหรับรถยนต์ของคุณนั่นเอง
3. เบี้ยประกันเท่าไร?
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุกคนชะงัก และต้องใช้เวลาในการตัดสินใจนาน นั่นคือในส่วนของเบี้ยประกันนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าประกันภัยชั้น 1 เบี้ยประกันจะราคาแพงที่สุด แต่ก็คุ้มครองครอบคลุมในทุกเรื่องได้มากที่สุดเช่นกัน
ส่วนประกัน 2+ มีราคาถูกกว่ากันลงมา ดังนั้นลองเทียบความพร้อมในการจ่ายของคุณมีมากน้อยแค่ไหน มองหาช่องทางการจ่ายเงินที่เหมาะสมไม่บีบรัดคุณมากเกินไป อย่างการผ่อนประกันรถยนต์รายเดือนได้ รับรองว่าคุณจะได้พบกับรูปแบบการทำประกันที่เหมาะสมสำหรับคุณอย่างแน่นอน
การทำประกันภัยสำหรับรถยนต์เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญและควรใส่ใจมาก เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมา ประกันรถยนต์ที่แหละที่เป็นที่พึ่งของเรา ในการนำรถเข้าซ่อมที่อู่ซ่อมรถ รวมถึงการรับผิดชอบค่าเสียหาย ไม่ให้มาลำบากเงินในกระเป๋าของเรา ที่รู้ใจ ประกันออนไลน์ มีประกันรถยนต์ที่หลากหลาย ทั้งประกันชั้น 1 , 2 , 2+ , 3 และ 3+ เลือกปรับแผนความคุ้มครองได้ตามใจ มีอู่ซ่อมรถและศูนย์ในเครือทั่วไทย พร้อมช่วยประหยัดเบี้ยประกันถึง 30% พร้อมผ่อนได้นาน 10 เดือน เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ได้เลย ให้คุณอุ่นใจได้ในทุกการเดินทาง
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)