Roojai

สรุปให้! Segment รถยนต์คืออะไร? ความแตกต่างและผลต่อเบี้ยประกัน

Article Roojai Verified
ประเภทรถยนต์ Car Segment คืออะไรและแตกต่างกันยังไง รู้ใจมีคำตอบ

อยากเลือกซื้อรถให้ถูกใจ ใช้ประโยชน์ได้อย่างที่ต้องการ การพิจารณารุ่น รถยนต์, ขนาดรถ และราคารถยนต์ อาจไม่ตอบโจทย์ รู้ใจจึงได้รวบรวมประเด็นเกี่ยวกับ “Segment Car” มาให้ทำความเข้าใจเพิ่มเติม ว่ามันคืออะไร ช่วยตัดสินใจในการเลือกซื้อรถยังไงบ้าง และส่งผลต่อเบี้ยประกันหรือไม่ ตามไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันเลย

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

Segment รถยนต์คืออะไร?

Segment Car คือ การแบ่งประเภทรถยนต์ตามขนาดรถ ซึ่งเป็นการจำแนกที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรป ถูกใช้อย่างแพร่หลายจนกลายมาเป็น “มาตรฐาน” การแบ่งประเภทรถยนต์ในปัจจุบัน โดยจะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษในการแทนความหมายขนาดรถ ที่เรียงลำดับจากเล็กไปใหญ่ เช่น Segment A แทนรถขนาดเล็ก

นอกจาก Segment Car จะแบ่งประเภทรถตามขนาดรถแล้ว บางทวีปอาจมีการแบ่งประเภทตามขนาดเครื่องยนต์ หรือลักษณะการใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละตัวอักษรที่แบ่ง Segment Car มีความหมายดังต่อไปนี้

รู้จักประเภทรถ A segment |​ ประกันรถยนต์ ​|​ รู้ใจ​

รถ A segment

Segment A เป็นกลุ่มรถขนาดเล็กที่สุด มีขนาดเครื่องยนต์อยู่ที่ 600-1,000 ซีซี เน้นความคล่องตัวในการขับขี่ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและแถบชานเมือง เพราะขนาดที่เล็ก กะทัดรัด ทำให้สะดวกต่อการขับขี่ในพื้นที่แคบ

นอกจากนี้รถ A segment ยังขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมัน แถมยังมีค่าบำรุงรักษาไม่แพง สำหรับรุ่นรถยนต์ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ Nissan March, Suzuki Celerio และ Mitsubishi Mirage

รู้จักประเภทรถ B segment |​ ประกันรถยนต์ ​|​ รู้ใจ​

รถ B segment

Segment B เป็นรถยนต์ที่ขนาดใหญ่กว่า Segment A โดยมีขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,000 ซีซี ไม่เกิน 1,500 ซีซี ซึ่งถือเป็นขนาดรถที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ด้วยความที่ขนาดรถไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ขนาดเครื่องยนต์อยู่ในระดับกลาง สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย

ด้านราคาของรถ B segment ก็ไม่สูงจนเกินไป ช่วยให้หลาย ๆ คนเข้าถึงและจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ประเภทนี้ได้ง่าย ซึ่งรุ่นรถยนต์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ Mazda 2, Toyota Vios, Honda City และ Mini Hatch 3 Door

รู้จักประเภทรถ C segment |​ ประกันรถยนต์ ​|​ รู้ใจ​

รถ C segment

Segment C นอกจากจะมีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า Segment B แล้ว ยังมีขนาดเครื่องยนต์สูงกว่าด้วย โดยขนาดเครื่องยนต์จะอยู่ที่ 1,500-2,200 ซีซี รองรับการใช้งานได้หลายประเภทมากขึ้น นอกจากนี้ยังใส่สัมภาระได้เยอะกว่า โดยรุ่นรถยนต์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Honda Civic, Mazda 3 และ Toyota Corolla Altis

รู้จักประเภทรถ D segment |​ ประกันรถยนต์ ​|​ รู้ใจ​

รถ D segment

Segment D จัดเป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แถมยังมาพร้อมกับ “ความหรูหรา” ที่มากกว่า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงสมรรถนะเครื่องยนต์ที่อยู่ในช่วงประมาณ หรือมากกว่า 2,500 ซีซีขึ้นไป โดยรุ่นรถ D segment ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ BMW Series 3, Honda Accord ,Toyota Camry, Mercedes-Benz C-Class และ Audi A4

รู้จักประเภทรถ E segment |​ ประกันรถยนต์ ​|​ รู้ใจ​

รถ E segment

Segment E เป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มาพร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ แบบจัดเต็ม ความสะดวกสบายครบครัน รวมถึงสมรรถนะของพละกำลังเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น ด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน แต่ก็แลกมาด้วยราคารถยนต์ที่สูงขึ้น ซึ่งรับประกันว่ารถ E segment ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากกว่า โดยรุ่นรถยนต์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Volvo S90, Mercedes Benz S-Class และ BMW Series 7 

นอกจาก Segment Car จะแบ่งตามขนาดรถยนต์แล้ว ปัจจุบันยังสามารถแบ่งออกได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการใช้งาน หรือรูปทรงของรถ เช่น รถครอสโอเวอร์, รถ PPV และรถ SUV เป็นต้น ซึ่งความหลากหลายดังกล่าว ช่วยให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกในการตัดสินใจมากขึ้น สามารถเลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งาน และตรงตามไลฟ์สไตล์ได้มากที่สุด

Segment รถยนต์ ส่งผลต่อราคาเบี้ยประกันยังไง?

แน่นอนว่า Segment car ส่งผลต่อเบี้ยประกัน แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะเบี้ยประกันรถยนต์จะถูกคำนวณจากปัจจัยต่าง ๆ นอกจากขนาดรถ ยี่ห้อและรุ่นรถยนต์ เช่น

  • ลักษณะการใช้งานรถยนต์ 
  • อายุผู้ขับขี่ 
  • กลุ่มรถยนต์ 
  • อายุรถยนต์ 
  • พื้นที่อาศัย 
  • ประวัติการเคลม

Tips: เลือกประกันรถยังไง ให้เหมาะกับแต่ละ Segment car

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างแรกเลยคือ ทุนประกัน เพราะรถในแต่ละ segment มีราคาที่แตกต่างกัน เราต้องเลือกทุนประกันที่ครอบคลุมความเสียหายของตัวรถ นอกจากนั้นการเลือกประกันรถจะขึ้นอยู่ที่ตัวผู้ขับขี่เป็นหลัก ตัวอย่างเช่น

  • มือใหม่หัดขับ – ประกันชั้น 1 ตอบโจทย์ที่สุด เพราะคุ้มครองทั้งการชนแบบมีและไม่มีคู่กรณี
  • อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม – ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ ประกันชั้น 2+ คุ้มครองเฉพาะน้ำท่วม
  • เป็นคนขับรถระวังและปลอดภัย – สามารถเลือกประกันได้ทุกประเภท เพราะความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่เป็นฝ่ายผิดน้อย
  • ต้องจอดรถค้างคืนข้างถนนบ่อย ๆ – ประกันชั้น 1 ตอบโจทย์ที่สุด เพราะคุ้มครองความเสียหายแบบไม่มีคู่กรณี หากเจอเหตุการณ์ชนแล้วหนีก็ยังเคลมประกันได้

การเลือกประกันที่ดี ต้องเลือกที่ตอบโจทย์ตัวรถและผู้ขับขี่ ดังนั้นก่อนการซื้อ ลองลิสต์ออกมาว่า นิสัยการขับขี่เป็นยังไง ลักษณะที่อยู่อาศัย จอดรถในบ้าน-นอกบ้าน ประสบการณ์ขับขี่ ใครใช้รถบ้าง เมื่อลิสต์ออกมาแล้วลองเปรียบเทียบประกันรถแต่ละประเภท ก็จะได้ประกันที่ตรงใจมากที่สุด โดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยราคาแพงไปกับความคุ้มครองที่ไม่ได้ต้องการ

การแบ่ง Segment รถยนต์ จะช่วยให้คนซื้อรู้ว่าเราต้องการรถที่มีฟีเจอร์ประมาณไหน มีรุ่นอะไรบ้าง เพื่อเลือกซื้อประกันรถยนต์ให้ได้ตรงใจ และอย่าลืมเลือกประกันรถที่ตอบโจทย์ ค่าเบี้ยประกันรถยนต์คุ้มค่า แบบนี้เดินทางไปไหนก็อุ่นใจได้

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้านสุขภาพ รวมถึงเกร็ดความรู้เกี่ยบกับประกันภัยต่าง ๆ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือเพิ่มเพื่อนทาง LINE ได้เลย (Official LINE ID: @roojai)

คำจำกัดความ

กลุ่มรถยนต์ การแบ่งประเภทของรถยนต์ ตามราคา ขนาดเครื่องยนต์ อะไหล่รถ และค่าซ่อม
ทุนประกัน จำนวนเงินสูงสุดที่ผู้รับประกันภัยจะจ่ายสำหรับความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัย
รถครอสโอเวอร์ (Crossover) รถยนต์ที่ผสมผสานระหว่างรถยนต์ทั่วไป และรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) โดยมีลักษณะการออกแบบที่คล้ายกับ SUV แต่มีโครงสร้างที่เล็กกว่า เบากว่า และขับขี่ได้ง่ายกว่า
รถ PPV รถยนต์อเนกประสงค์ที่ดัดแปลงมาจากโครงสร้างของรถกระบะ โดยมีการออกแบบให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้หลายคน มักจะมีที่นั่ง 7 ที่นั่ง และมีพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง
previous article
< บทความก่อนหน้า

ใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน นับเป็นการเคลมมั้ย? มีผลต่อเบี้ยประกันยังไง?