จากรายงานข่าวเว็บไซต์ข่าวสดเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีพายุฝนเข้าถล่มตัวเมืองระยอง ส่งให้ผลให้เกิดน้ำท่วมมิดรถเก๋ง และการจราจรในถนนหลายสายต้องเป็นอัมพาต โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหน้าขนส่งใหม่ อ.เมือง ระยอง ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ มีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ท่วมเกือบมิดรถยนต์ที่กำลังสัญจรไปมา ทำให้ประชาชนบางรายต้องทิ้งรถ และรถยนต์บางคันชาวบ้านต้องช่วยกันเข็นรถจากบริเวณที่น้ำท่วมสูง
จากข่าวดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย แต่ในบางภูมิภาคได้ก็มีมรสุมได้ จากพายุฝนที่กระหน่ำยาวนาน บวกกับพื้นที่เป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน จนน้ำท่วมเกือบมิดรถ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ดังนั้นเราจึงไม่ควรประมาท คอยติดตามข้อมูลข่าวสาร ข่าวพยากรณ์อากาศ และควรมีประกันรถชั้น 1 หรือ 2+ ไว้ เนื่องจากมีความคุ้มครองกรณีรถเสียหายจากน้ำท่วม แต่ประกันชั้น 1 และ 2+ คุ้มครองแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกัน
ความคุ้มครองหลักของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
รถยนต์เสียหายจากภัยธรรมชาติ(รวมน้ำท่วม)
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างระยะเวลาประกันภัย อันมีสาเหตุมาจากภัยธรรมชาติต่างๆ ต่อรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ตามที่ระบุไว้ในตาราง
ความคุ้มครองหลักของประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
รถยนต์เสียหายจากน้ำท่วม
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างระยะเวลาประกันภัย อันมีสาเหตุมาจากภัยน้ำท่วม ต่อรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ตามที่ระบุไว้ในตาราง
สำหรับประกันรถชั้น 1 และ 2+ นั้นต่างก็ให้คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง ที่เกิดจากน้ำท่วมเหมือนกัน แต่ประกันรถชั้น 1 จะคุ้มครองภัยธรรมชาติอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยนอกจากภัยน้ำท่วม เช่น แผ่นดินไหว ซึ่งมีเคยเกิดขึ้นในประเทศไทยของเราอยู่บ้าง
หลังจากรู้แล้วว่าประกันรถสามารถช่วยคุ้มครองรถที่คุณรักได้ในกรณีเกิดภัยธรรมชาติต่างๆ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ ถ้าคุณรักรถ ห่วงรถให้รู้ใจดูแลเถอะครับ ซื้อประกันรถชั้น 1 รู้ใจวันนี้ ผ่อนได้ 0% เพียงหลักร้อยต่อเดือน ก็คุ้มครองน้ำท่วมได้ทั้งคัน รู้ใจประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ คลิกเช็คเบี้ยประกันรถฟรี” หรือโทร 02 582 8888
ขอบคุณ ข้อมูลและภาพจาก เว็บไซต์ ข่าวสด
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_274820