นำรถไปแข่งแรลลี่แล้วเกิดอุบัติเหตุ เคลมประกันรถยนต์ได้มั้ย?

แข่งรถอาจเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายคน แต่ถ้าเป็นการแข่งขันสนุกสนานในองค์กร อีเว้นท์ต่าง ๆ อย่างการแข่งแรลลี่ค่อย ๆ ขับรถไปตามพิกัดต่าง ๆ พอจะเป็นไปได้สำหรับทุกคน หรือแต่ก่อนจะไปแข่งมีเรื่องหลายอย่างที่คุณต้องรู้ก่อน โดยเฉพาะถ้าเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขณะแข่ง แบบนี้สามารถเคลมประกันอุบัติเหตุได้ไหม? รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแข่งรถ รู้ใจได้ลิสต์ประเด็นสำคัญมาให้แล้ว ตามไปอ่านเต็ม ๆ ในบทความนี้เลย

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

• การแข่งรถแรลลี่คืออะไร?
• เรื่องที่ควรรู้ก่อนแข่งรถแรลลี่ มีอะไรบ้าง?
• แข่งแรลลี่แล้วประสบอุบัติเหตุ เคลมประกันได้มั้ย?

การแข่งรถแรลลี่คืออะไร?

ความหมายของการแข่งรถแรลลี่ พื้นฐานเลยคือ การแข่งรถบนถนนจริง ระยะทางไกล เช่น การขับจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง อาจมีคนขับได้มากกว่า 1 คน ภาษาอังกฤษเรียกว่า rally car racing หรือ car rally การตัดสินผู้ชนะอยู่ที่ว่ารถคันไหนเสียคะแนนน้อยที่สุด ไม่ใช่ใครวิ่งเร็วที่สุด

เมื่อเริ่มการแข่งขัน กรรมการจะปล่อยรถแข่งออกนาทีละคัน (เรียงตามเบอร์) เช่น กำหนดให้วิ่งจากจุดควบคุมเวลา (Timing Control) หรือที่นักแข่งแรลลี่เรียกกันว่า TC ที่ 1 ไปยัง TC ที่ 2 ให้เวลา 30 นาที ระยะทาง 30 กิโลเมตร ในระหว่างทางจะมีเครื่องหมายตรวจสอบผ่านทาง Rule Check หรือที่เรียกกันว่า RC 2 ตัว ให้ผู้แข่งขันค้นหา

อย่างไรก็ตาม อย่างพึ่งนึกภาพรถแข่งขับลุยแรง ๆ ไปบนเส้นทางทุรกันดารเพียงเท่านั้น เพราะในบริบทของบ้านเรา การแข่งแรลลี่สามารถเป็นในรูปแบบเกมการแข่งขันง่าย ๆ ขับรถไปตามพิกัดต่าง ๆ เพื่อความสนุกสนานโดยไม่มีการแข่งความเร็วได้ด้วย

เรื่องที่ควรรู้ก่อนแข่งรถ มีอะไรบ้าง?

ไม่ว่าแข่งรถแบบไหนก็มีเรื่องที่ควรรู้ก่อน โดยเราจะเจาะลึกเรื่องการแข่งรถแรลลี่แบบจริงจัง เน้นทำเวลาให้น้อยที่สุดเป็นการแข่งขันระดับโลก สิ่งที่ต้องรู้คือใช่ว่าใครอยากจะลงสนามแข่งรถก็ลงได้เลย เพราะมีเรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจแข่งอีกเพียบ และรู้ใจก็ได้ลิสต์มาให้เรียบร้อยแล้ว จะต้องเตรียมตัวยังไง มีอะไรที่ต้องรู้ก่อนเป็นนักแข่งรถบ้าง ตามไปดูกันเลย!

1. เรียนรู้ทักษะการขับขี่

การเป็นนักแข่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นแข่งแรลลี่หรือแข่งรถสายอื่น ๆ สิ่งที่ควรทำความที่สุด คือ “เรียนรู้การขับขี่พื้นฐาน และทักษะการขับขี่/ขับแข่งขั้นสูง” เพื่อความปลอดภัย ลดโอกาสเสี่ยงในการประสบอุบัติเหตุ และเข้าถึงความสนุกของกีฬามอเตอร์สปอร์ตได้อย่างเต็มที่

ซึ่งหลักสูตรที่ได้มาตรฐานรับรองจาก ร.ย.ส.ท. ได้แก่ TRA (TSS Racing Academy) และ TGR Academy (TOYOTA Gazoo Racing Academy) ซึ่งได้ออกแบบฝึกสอนโดยนักแข่งมืออาชีพระดับต้น ๆ ของประเทศ จาก TOYOTA Gazoo Racing team Thailand

2. ใบอนุญาตขับแข่ง

สิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งรถ คือ “ใบอนุญาตขับขี่” เพื่อยื่นขอใบอนุญาตขับแข่งจาก ร.ย.ส.ท. ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทน FIA และ FIA/CIK แห่งประเทศไทย สำหรับ “เกรด” ของใบอนุญาตขับขี่ จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในการขับแข่งของแต่ละคน โดยมีการแบ่งเกรดดังนี้

• National ระดับมือสมัครเล่น
• Grade C ระดับมืออาชีพขึ้นไป
• Grade B และ Grade A สำหรับการลงแข่งในรายการใหญ่ หรือเพื่อทำ Inter License เพื่อลงแข่งในรายการระดับโลก

3. กฎกติกาและรายการแข่ง

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่คนที่มีใจรักการแข่งรถมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ “กฎกติกาและรายการแข่ง” ที่สนใจสมัครร่วมลงแข่ง รวมถึงสัญลักษณ์ เครื่องหมายต่าง ๆ และมารยาทในการขับแข่งสากล

โดยการตัดสินใจลงแข่งในรายการแข่งขันที่ได้รับการรับรองจาก ร.ย.ส.ท. เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นรายการที่ได้มาตรฐานทางด้านกฎกติกา ทีมกรรมการผู้ตัดสิน และความปลอดภัยของสนามแข่ง ซึ่งในประเทศไทยก็มีอยู่ด้วยกันหลายรายการ ดังนี้

• Thailand Super Series
• RAAT Thailand Endurance Championship
• Super Turbo
• TOYOTA Gazoo Racing Motorsport

4. รถแข่งและทีมคู่ใจ

สำหรับ “หัวใจสำคัญ” ของการแข่งกีฬามอเตอร์สปอร์ต เป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก “รถและทีมคู่ใจ” รถและนักแข่งจะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และจะต้องมีทีมเบื้องหลังที่รู้ใจ วางแผนการขับได้เป็นอย่างดี ปรับแต่งรถให้เข้ากับความต้องการ แต่ยังถูกต้องตามกฎกติกาการแข่งขัน

5. ค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน

ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ของการแข่งกีฬามอเตอร์สปอร์ต ได้แก่ ค่ารถยนต์ ค่าปรับแต่งรถ ชุดอุปกรณ์เซฟตี้ ค่าสมัคร ค่าเดินทางและค่าที่พัก แน่นอนว่าแตกต่างกันออกไป (ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เลือก) จะเห็นว่าผู้แข่งขันหลายคนเลือกรายการแข่งที่มีการประชาสัมพันธ์รายการ เพื่อช่วยในการ “นำเสนอขอการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี หรือแบรนด์สินค้าต่าง ๆ”

แข่งแรลลี่แล้วประสบอุบัติเหตุ เคลมประกันได้มั้ย?

ประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ความคุ้มครองประกันรถยนต์เมื่อนำรถไปแข่งแรลลี่แล้วประสบอุบัติเหตุ แบบนี้ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่ ซึ่งหากอ้างถึง “เงื่อนไขของประกันรถยนต์” ในข้อยกเว้นกรมธรรม์ ประกันจะไม่คุ้มครองรถ เมื่อใช้ใน “การแข่งขันความเร็ว” เพราะทำให้ความเสี่ยงภัยสูงขึ้น มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

แต่กรณีการแข่งขันแรลลี่ที่ไม่ได้มีลักษณะเป็นการแข่งขันความเร็ว จะไม่อยู่ภายใต้ข้อยกเว้นดังกล่าว ดังนั้นหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในขณะแข่งขันดังกล่าว ทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย ความเสียหายของบุคคลภายนอกนั้นยังคงได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยเหมือนเดิม

ให้ดีที่สุดแนะนำให้อ่านรายละเอียดและเงื่อนไขในกรมธรรม์รถยนต์ให้ดีก่อน ว่าคุ้มครองกรณีนำรถไปแข่งแรลลี่หรือไม่ เป็นการแข่งแรลลี่แบบไหน หากอ่านแล้วไม่เข้าใจแนะนำให้ตรวจสอบกรมธรรม์ ด้วยการสอบถามโบรคเกอร์ หรือตัวแทนประกันโดยตรงจนกว่าจะเข้าใจ เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมาในภายหลัง

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจและอยากแข่งแรลลี่ แนะนำให้ทำความเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแข่งรถแรลลี่ และความคุ้มครองประกันรถยนต์ กรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชน หรืออุบัติเหตุทางถนนอื่น ๆ ที่ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย จะยังได้รับความคุ้มครองตามเดิมหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงและภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นตามมาในอนาคต

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)

คำจำกัดความ

ระวางโทษ	โทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดฐานหนึ่งฐานใด
กีฬามอเตอร์สปอร์ต	กีฬาแข่งขันความเร็ว ที่รวบรวมยานยนต์หรือพาหนะที่มีเครื่องยนต์เป็นส่วนประกอบ เกือบทุกประเภท มาจัดการแข่งขันประชันความเร็วสุดตื่นเต้น ภายใต้การดูแลของสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ
ร.ย.ส.ท.	ย่อมาจาก ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา