หลายครั้งที่เรามีความจำเป็นต้องไปห้างสรรพสินค้าหรือลานจอดรถ ก็มักสร้างความหงุดหงิดหัวเสียให้ได้พอสมควรโดยเฉพาะการวนหาที่จอด ยิ่งในช่วงรีบๆ ก็ยิ่งทำให้เราต้องเสียเวลาเข้าไปอีก ซึ่งหลายคนก็อาจต้องแก้ไขเฉพาะหน้าคือ ‘การจอดซ้อนคัน’ คนที่พอมีจิตสำนึกหน่อยก็ยังปลดเบรกมือใส่เกียร์ว่างไว้ แต่คนไม่ใส่ใจหรือนึกถึงรถคันที่จอดด้านใน ก็มักดับเครื่องยนต์ล็อกรถแล้วเดินไปโดยไม่แยแสเลยว่ารถตัวเองเข้าเกียร์ P ไว้หรือเปล่า แต่นั่นก็เป็นประเด็นที่พบเห็นได้บ่อย ส่วนกรณีที่เราหยิบยกมานำเสนอกันในคอลัมน์นี้คือ หากคุณจอดซ้อนคันไว้ แล้วมีผู้อื่นมาเข็นรถคุณจนเกิดริ้วรอยหรือมีการบุบเกิดขึ้น ซึ่งที่แน่ๆ ส่วนใหญ่คนเข็นมักไม่รู้ตัวหรือไม่ก็ไม่อยู่เคลียร์เพื่อแสดงความรับผิดชอบแน่ๆ ก็คำถามต่อมาคือ ต้องทำอย่างไร แล้วประกันประเภทไหนจะรับผิดชอบความเสียหายส่วนนี้ได้บ้าง เราไปหาคำตอบกันครับ
สิ่งแรกที่ผู้เป็นเจ้าของรถหรือผู้ขับขีรถยนต์ขณะเกิดเหตุต้องทำคือ โทรหาบริษัทประกันก่อนเลย เพื่อแจ้งเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไหน จากนั้นแจ้งรปภ. ของห้างหรือลานจอดรถนั้นๆ เพื่อสอบถามพยานบุคคลหรือขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นตอนไหน และดูว่าคนเข็นรถคุณนั้นลงหรือขึ้นรถคันไหนออกไป จากนั้นไปสถานีตำรวจเพื่อขอแจ้งความว่ารถของเราโดนทำให้เสียหายโดยใครอย่างไรตอนไหน ใช้รถเลขทะเบียนอะไร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบเจ้าของรถคู่กรณีและออกหมายเรียกให้มารับข้อกล่าวหา และเราเองก็ต้องไปยืนยันเรื่องราวทั้งหมดที่สถานีตำรวจอีกครั้ง ซึ่งถ้ามีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะกรณีนี้ก็ถือว่ามีผู้กระทำให้เกิดความเสียทรัพย์ชัดเจน และรถยนต์ที่เสียหายก็จะได้รับความคุ้มครองหรือการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป
แต่ในกรณีที่ไม่มีพยานหลักฐานจากบุคคลหรือภาพจากกล้องวงจรปิดใดๆ และรถของคุณได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 ไว้ บริษัทประกันจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยการซ่อมแซมให้กลับอยู่ในสภาพเดิม แต่กรณีที่ไม่สามารถระบุให้ทราบคู่กรณีได้ ท่านต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขที่ คปภ. กำหนดไว้ต่อเหตุการณ์ ดังนี้
- ถ้ากรมธรรม์ประเภท 1 มีค่าเสียหายส่วนแรกตามตาราง เช่น กรมธรรม์ระบุค่าเสียหายส่วนแรกต่อตัวรถยนต์จำนวน 1,000 บาท ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ 1,000 บาทพร้อมกับค่าเสียหายส่วนแรกตามที่ คปภ. กำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของฝ่ายเคลม กรณีรถยนต์เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ อีก 1,000 บาท รวม ชำระที่อู่ซ่อมเมื่อรถยนต์ซ่อมเสร็จ จำนวน 2,000 บาท
- ถ้ากรมธรรม์ประเภท 1 ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกตามตาราง กรณีรถยนต์เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ท่านต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรกตามที่ คปภ. กำหนด 1,000 บาท โดยชำระได้ที่อู่ซ่อมรถยนต์เมื่อรถยนต์ซ่อมเสร็จ
ทั้งนี้ หากภายหลังมีการติดตามตัวผู้กระทำความผิด ทำให้รถยนต์ของท่านเสียหายได้ บริษัทประกันภัย จะทำเรื่องคืนเงินค่าเสียหายส่วนแรกทั้งหมดที่เก็บไปก่อนหน้าให้กับท่าน และไปทำการเรียกร้องค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมรถยนต์จากผู้กระทำความผิดหรือคู่กรณีต่อไป
โดยในกรณีเจ้าของรถไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 ท่านจำเป็นต้องซ่อมแซมรถยนต์ของตนเองไปก่อน จนกว่าจะติดตามผู้ที่ทำให้รถยนต์ของท่านเสียหายและมาทำการชดใช้ค่าเสียหายให้กับท่านได้ นี่คือความพิเศษของประกันชั้น 1 ที่คุ้มครองความเสียหายของรถที่ทำประกันภัยมากกว่าประเภทอื่นๆ
สุดท้ายก็อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง ด้วยประกันรถที่รู้ใจคุณที่สุด กับ Roojai.com ประกันรถออนไลน์ พร้อมบริการคุณตลอดเวลา เช็คเบี้ยออนไลน์ได้ราคาทันทีผ่านเว็บไซต์ กับราคาที่แฟร์กว่า คำนวณตามลักษณะการขับขี่ของคุณโดยเฉพาะ