นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผู้ใช้รถล้วนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับรถคู่ใจของตัวเอง ในกรณีที่เราขับขี่รถไปบนท้องถนนแล้วดันต้องมาเจอพี่ๆ สิงห์นักบิดที่รูดหรือเฉี่ยวกระจกมองข้างเข้าให้ หากไม่เกิดความเสียหายก็นับว่าโชคดีไป แต่ถ้าทุกอย่างไม่เป็นใจถึงขั้นชนกระจกแตกหักห้อยโต่งเต่ง แล้วยังขับหนีไปโดยไม่ดูดำดูดีเลยนี่สิพี่ๆ มีช้ำ และก็เป็นคำถามต่อมาว่าแล้วเราจะทำอย่างไรดี เรียกร้องให้ใครมาชดใช้ค่าความเสียหายได้บ้าง วันนี้ Roojai.com มีคำตอบมาให้ทุกคน
แน่นอนเหตุการณ์นี้เมื่อรถจักรยานที่ชนเราขับหนีอีกทั้งยังจำเลขทะเบียนของคู่กรณีไม่ได้ ก็ถือว่าอุบัติเหตุครั้งนี้คุณไม่มีคู่กรณีทันที อย่างแรกที่เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่ต้องทำคือ ให้แจ้งบริษัทประกันและแจ้งความกับตำรวจไว้ด้วยตามความเป็นจริง ไม่ต้องพยายามหาคู่กรณีมาสวมรอยเพราะจะยิ่งทำให้ยุ่งยากเข้าไปอีก
สำหรับการแจ้งเคลมบริษัทประกันรถยนต์ที่ทำไว้ ขอให้ทำการแจ้งทันทีที่เกิดเหตุ แจ้งเคลมผ่านศูนย์รับแจ้งทางโทรศัพท์หรือผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ซึ่งการแจ้งเหตุทันทีเมื่อเจ้าหน้าที่รับแจ้งสอบถามข้อมูลการเกิดเหตุเบื้องต้นแล้ว จะพิจารณาถึงการจัดส่งเจ้าหน้าที่สำรวจภัยมาช่วยเหลือท่าน ณ จุดเกิดเหตุทันที เช่น ถ้าพิจารณาแล้วจุดนั้น เป็นจุดที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่สำรวจภัยจะทำการประสานงานกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่เพื่อขอให้ช่วยประสานงานเพื่อดูกล้องวงจรปิดช่วงของการเกิดเหตุ ซึ่งถ้ากล้องสามารถบันทึกป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ไว้ได้ ก็เป็นโอกาสหนึ่งที่จะทำให้พนักงานสอบสวนสามารถออกหมายเรียกเจ้าของรถจักรยานยนต์คันนั้นมาสอบสวนเข้าสู่กระบวนการติดตามผู้กระทำความผิดหรือทำให้รถยนต์เสียหายต่อไป ทั้งนี้ เอกสารประกอบการเคลมที่บันทึกของพนักงานสอบสวนสามารถระบุป้ายทะเบียน หรือรายละเอียดอื่นๆ ของรถคู่กรณี ได้ครบถ้วน ทั้งหมวดตัวอักษรและหมวดจังหวัด จะเป็นประโยนชน์อย่างยิ่งต่อการที่ประกันภัยจะละเว้นไม่เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขของ คปภ. ในข้อที่ระบุไว้ว่า ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ กรณีถูกคู่กรณีเฉี่ยวชนและไม่สามารถระบุรายละเอียดของคู่กรณีได้ ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกเฉพาะกรณีนี้ต่อเหตุการณ์ ๆละ 1,000 บาท สำหรับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1
นอกจากนี้ หากท่านทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 + หรือ 3+ ที่คุ้มครองเฉพาะการชนกับยานพาหนะทางบก รถยนต์ของท่านยังได้รับการซ่อมแซมไปก่อน เพราะบันทึกประจำวันสามารถระบุป้ายทะเบียนของคู่กรณีได้ชัดเจน ไม่ได้ถือว่าเป็นการถูกเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ซึ่งประเภท 2 + หรือ 3+ ไม่คุ้มครองการถูกมอเตอร์ไซค์ชนแล้วหลบหนี
เกิดเหตุถูกเฉี่ยวชน แจ้งเหตุให้บริษัทประกันทราบโดยทันที เพื่อบริษัทประกัน จะได้พิจารณาการช่วยเหลือและการให้คำแนะนำที่ถูกต้องสำหรับการติดตามหาข้อมูลคู่กรณี และจะทำให้รถยนต์ที่เสียหายได้รับความคุ้มครองภายใต้เงื่อนไขของกรมธรรม์
ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกทำประกันภัยถือเป็นความสมัครใจส่วนบุคคล จะเลือกทำประเภท 1 , 2 , 2+,3+ หรือประเภท 3 ใครพร้อมทำประกันแบบไหนชั้นไหนก็เลือกให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่และการใช้รถให้มากที่สุด ที่สำคัญเพื่อความชัวร์ควรติดกล้องในรถไว้ก็เป็นการดี เพราะหากเกิดเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุไม่คาดฝันก็สามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานสำคัญได้
สุดท้ายก็อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง ด้วยประกันรถที่รู้ใจคุณที่สุด กับ Roojai.com ประกันรถออนไลน์ พร้อมบริการคุณตลอดเวลา เช็คเบี้ยออนไลน์ได้ราคาทันทีผ่านเว็บไซต์ กับราคาที่แฟร์กว่า คำนวณตามลักษณะการขับขี่ของคุณโดยเฉพาะ สามารถเคลมสบายผ่านแอป