รถแบบไหนจะถูกใจคุณหนูๆ มากที่สุด
สำหรับผู้ที่ใช้รถเมื่อมีเด็กมาเป็นผู้โดยสารเพิ่มในการใช้รถ ก็อยากจะได้รถที่สามารถส่งเจ้าหนูน้อยไปโรงเรียนได้ ไปเที่ยวพักผ่อน มีพื้นที่มีความสะดวกสบายในตัวรถ และสามารถใช้ได้กับหน้าที่การงานประจำวันได้ ก็มองหารถครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่รถประเภทนี้จะอยู่ในกลุ่มรถ 7 ที่นั่ง
คราวนี้เราขอแนะนำรถรุ่นที่เหมาะสำหรับคนที่มีครอบครัว มีลูกเด็กเล็กแดง รับรองว่าถูกใจคุณหนูๆแน่ๆ
ฮุนได H-1 และฮุนได Grand Starex
เป็นรถครอบครัวที่หลายคนมองว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งในตัวเลือก โดยภายในเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกออกแบบเพื่อมอบสะดวกสบายในการใช้งาน เบาะนั่งโดยสารทั้ง 11 ที่นั่งในรุ่น H-1 ได้รับการออกแบบตัวเบาะหนัง และพนักพิงศีรษะด้านข้างใหม่ ในขณะที่ Grand Starex ซึ่งเป็นรถโดยสาร 7 ที่นั่ง มีการออกแบบที่วางเท้าใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายขณะนั่งโดยสาร
นอกจากนี้ยังมีคอนโซลหน้าใหม่ ติดตั้งจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ความละเอียดสูงที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ผู้โดยสารด้านหลังมีจอ LCD ความละเอียดสูงบนเพดานขนาด 13.3 นิ้ว เทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และให้ภาพคมชัดมากขึ้น ตำแหน่งของเบาะและจอ ออกแบบโดยคำนึงถึงสะดวกสบายสูงสุดขณะโดยสาร และให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในห้องนั่งเล่นภายในบ้าน
ทั้ง H-1 และ Grand Starex รุ่นท๊อป ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ที่หลายคนรอคอย นั่นคือประตูสไลด์ไฟฟ้าอัตโนมัติทั้ง 2 บานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ช่วยให้การเข้า-ออกตัวรถสะดวกสบายมากขึ้น และมีการติดตั้งระบบ Smart View System อาศัยการทำงานจากกล้อง 4 ตัว แสดงผลผ่านจอขนาด 8 นิ้วในมุมมอง 360 องศา ช่วยให้ผู้ขับถอยจอดได้อย่างปลอดภัยและสะดวกขึ้นกว่าเดิม
พละกำลังยังเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว CRDi ความจุ 2.5 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน VGT ลดความร้อนไอดีด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 44.9 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อม Sequential shift
ราคาค่าตัวอยู่ที่ ฮุนได H-1 Touring 1.289 ล้านบาท, ฮุนได H-1 Elite 1.499 ล้านบาท และฮุนได H-1 Deluxe 1.679 ล้านบาท ส่วนฮุนได Grand Starex Premium 2.349 ล้านบาท และ Grand Starex VIP 2.399 ล้านบาท
ซูซูกิ เออร์ติก้า
น้องใหม่ล่าสุดของรถ MPV ขนาด 7 ที่นั่งที่ใช้แพลทฟอร์มของรถขายดีอย่าง ซูซูกิ สวิฟท์ มาพัฒนา โดยการออกแบบที่พยายามเน้นจุดเด่นในเรื่องของสมรรถนะการทรงตัวและความสามารถในการยึดเกาะถนนของตัวรถ ด้วยแพลทฟอร์มที่ใช้ร่วมกับซูซูกิ สวิฟท์ ความกว้างและยาวของฐานล้อถูกออกแบบให้กว้างและยาวขึ้น เออร์ติก้า ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร กำลังสูงสุด 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันเป็นแบบหัวฉีดมัลติพอยท์ เอ็มพีไอ ใช้น้ำมัน อี20 ได้ นอกจากนี้ยังมีช่องแอร์บนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง แยกระบบควบคุมความเย็นแบบอิสระ ส่งความเย็นไปยังผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ได้อย่างทั่วถึง มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ GA เกียร์ธรรมดา GL เกียร์อัตโนมัติ และ GX เกียร์อัตโนมัติ
ราคา 554,000-689,000 บาท
ฮอนด้า Freed
รูปลักษณ์ภายนอกดูโฉบเฉี่ยวตามสไตล์ฮอนด้าทั้งกระจังหน้า กันชนหน้า ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียม มีสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ประตูข้างสไลด์อัตโนมัติซ้าย-ขวา ห้องโดยสารรองรับได้ 7 ที่นั่ง ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน อาทิ เครื่องเล่น DVD จอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว 2 จอ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
มาพร้อมเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 118 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร ระบบความปลอดภัยครบ ถุงลมคู่หน้า ระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และสะดวกด้วยกล้องมองภาพด้านหลัง
ฮอนด้า แบ่งการจำหน่าย Honda Freed MY2013 เป็น 3 รุ่น คือ Freed EL หรูหราด้วยเบาะหนัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง อุปกรณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบ อาทิ เครื่องเล่น DVD พร้อมจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว 2 จอ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง วิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ทัชสกรีน 7 นิ้ว เชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สายด้วย Bluetooth ราคาจำหน่าย 959,000 บาท
ส่วนรุ่น Freed E ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่มเติมขึ้นจากเดิม หรูหราด้วยเบาะหนัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง วิทยุ ซีดี MP3 แบบ 1 แผ่น ราคาจำหน่าย 879,000 บาท ปิดท้ายด้วยรุ่น Freed SE เบาะผ้าสีเบจ ราคาจำหน่าย 834,000 บาท
เพราะเรารู้ว่าคุณรักรถมากแค่ไหน “รู้ใจ” จึงให้คุณเลือกซ่อมได้ตามอู่ซ่อมรถยนต์แนะนำของรู้ใจดอทคอม พร้อมรับประกันงานซ่อม นานสูงสุดถึง 12 เดือน คลิกเช็คเบี้ย!