เมื่อช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมานั้น มีหนึ่งข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการรถยนต์และผู้ใช้รถใช้ถนนเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างอัตราภาษีรถยนต์ใหม่ที่จัดเก็บจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2559 ทำให้ต้องมาเช็คภาษีรถยนต์กันอีกรอบ
เหตุผลของการปรับโครงสร้างภาษีในครั้งนี้นั้นมีสาเหตุมาจากการมีส่วนร่วมลดปัญหาภาวะโลกร้อน โดยการเริ่มใช้อัตราภาษีรถยนต์ใหม่นั้นจะคิดตามปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับ Eco Car เพราะเจ้ารถยนต์ประเภทนี้ได้รับการยกเว้นการปรับขึ้นภาษีทุกรุ่น เนื่องจากมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ต่ำอยู่แล้ว (อยู่ที่ 100-200 กรัมต่อกิโลเมตร) และที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือ อีโค่คาร์ บางรุ่น จะได้รับการลดราคาลงด้วย (รุ่นที่ปล่อย CO2 ต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร)
ดังนั้น เราจึงขอรวบรวม รถอีโค่คาร์ รุ่นที่มีจำหน่ายในประเทศไทยที่ได้รับการยกเว้นอัตราภาษีรถยนต์ใหม่ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่กำลังมองหาอีโคคาร์มาเป็นยานพาหนะคู่ใจปี 2559
NISSAN MARCH
นิสสัน มาร์ช นับว่าเป็นรถยนต์อีโค่คาร์คันแรกที่เข้ามาบุกตลาดเมืองไทย ซึ่งทำการตลาดจนทำให้เมื่อไหร่ก็ตามที่คิดถึงรถอีโค่คาร์ก็มักจะคิดถึงมาร์ช มาร์ชมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี 3 กระบอกสูบ 79 แรงม้า ให้อัตราเร่งดี พร้อมแรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีเท่าเดิมที่ 17%
ราคาเริ่มต้น 392,000 บาท
ที่มาภาพ : https://www.nissan.co.th/vehicles/new-vehicles/march.html
HONDA BRIO
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดตัวรถอีโค่คาร์คันแรกจากค่ายฮอนด้า นั่นก็คือ ฮอนด้า บริโอ้ ทั้งยังได้ซุปเปอร์สตาร์อย่างหมาก ปริญและญาญ่า อุรัสยา มาพรีเซ็นเตอร์ให้อีกด้วย โดยอีโค่คาร์คันนี้นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.2 ลิตร 4 สูบ 90 แรงม้า ทั้งยังประหยัดน้ำมันถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยไอเสียตามเกณฑ์มาตรฐาน ยูโร 4 หรือสูงกว่า ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัมต่อหนึ่งกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีเท่าเดิมที่ 17%
ราคาเริ่มต้น 436,500 บาท
ที่มาภาพ : http://www.honda.co.th/th/brio?gclid=CPihlL3BusoCFdKHaAodpFoLSw
NISSAN ALMERA
หลังจากที่ส่งอีโค่คาร์คันแรกอย่างมาร์ชออกมาแล้วเมื่อปี 2010 นิสสันไม่ปล่อยให้ค่ายอื่นได้แซงความแรงในการเป็นผู้บุกเบิกตลาดด้วยการส่ง นิสสัน อัลมีร่า ตามมาในปี 2011 อีโค่คาร์ลุคซีดานทีเข้าถึงคนเมืองรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเป็นรถอีโค่คาร์ 4 ประตูคันแรกของไทยอีกด้วย เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี 3 สูบ แถวเรียง DOHC 79 แรงม้า ลดแรงเสียดทานมีอัตราเร่งดี ทั้งยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 120 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 20 กิโลเมตรต่อลิตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีเท่าเดิมที่ 17%
ราคาเริ่มต้น 437,000 บาท
ที่มาภาพ : https://www.nissan.co.th/vehicles/new-vehicles/almera.html
MITSUBISHI MIRAGE
ช่วงหลังปี 2011 นับว่าเป็นยุครุ่งเรืองของอีโค่คาร์อย่างต่อเนื่อง มิตซูบิชิจึงได้ส่งรถยนต์อีโค่คาร์รุ่นใหม่จากค่ายออกมานั่นก็คือ มิตซูบิชิ มิราจ ซึ่งต้นสังกัดเองได้งัดกลยุทธในเรื่องของน้ำหนักออกมาสู้ โดยมีน้ำหนักอยู่ทีราวๆ 830-870 กิโลกรัม ซึ่งแบรนด์อื่นน้ำหนักประมาณ 900-975 กิโลกรัม มิราจมาพร้อมกับเครื่องยนต์ DOHC MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ ให้แรงม้าลงล้อที่ 78 แรงม้า ระบบวาล์ว MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดี และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 98 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีลดลงที่ 14% (แต่ทั้งนี้มิราจยังถือว่าเป็นรถยนต์ Eco Car Phase 1 ที่เข้าข่ายอัตราภาษีเดิมที่ 17% อย่างไรก็ดี อาจต้องรอทางต้นสังกัดออกมาประกาศถึงเงื่อนไขอื่นๆ ต่อไป)
ราคาเริ่มต้น 383,000 บาท
ที่มาภาพ : http://www.mitsubishi-motors.co.th/mirage/lineup.html
SUZUKI SWIFT
หลังจากที่ถูกมิราจแซงเปิดตัวตัดหน้าไปได้เพียงวันเดียว ซูซูกิก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอีโค่คาร์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรถยนต์ดีไซน์สวยมาพร้อมกับสมรรถนะที่ช่วยให้การขับขี่คล่องตัว มั่นใจทุกการเดินทางด้วยฟังกชั่นใหม่ Paddle Shift และ Cruise Control เครื่องยนต์ 1.25 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้แรงม้าที่ 91 แรงม้า รวมถึงการประหยัดน้ำมัน 20 กิโลเมตรต่อลิตร มีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยจากท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีเท่าเดิมที่ 17%
ราคาเริ่มต้น 442,000 บาท
ที่มาภาพ : http://www.suzuki.co.th/webpage/swift/
HONDA BRIO AMAZE
เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 ตามรุ่นพี่อย่างบริโอ้มาติดๆ ด้วยลุคซีดาน 4 ประตู ดีไซน์โฉบเฉี่ยวดูหรูไปในตัวแต่ราคาเบาๆ ทั้งยังได้นักร้องชื่อดังอย่าง บี้ สุกฤษฎิ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายทอดความอเมซที่ใครๆ ก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของได้ อเมซมาพร้อมi-VTEC 1.2 ลิตร 4 สูบ 90 แรงม้า ประหยัดน้ำมันที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการปล่อยก๊าซคาร์มอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีเท่าเดิมที่ 17%
ราคาเริ่มต้น 454,000 บาท
ที่มาภาพ : http://www.honda.co.th/th/brioamaze?gclid=CPaknrfLusoCFdiHaAodcREB3Q
MITSUBISHI ATTRAGE
“แอททราจ… ก้าวที่เหนือใคร” แนวคิดของรถอีโค่คาร์คันที่ 2 จากค่ายมิตซูบิชิ และเพื่อเน้นย้ำกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนเมือง ต้นสังกัดจึงดึง มาริโอ้ เมาเร่อและคิมเบอร์ลี่ สองซุปเปอร์สตาร์แนวหน้าของเมืองไทยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ อีโค่คาร์คันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว 78 แรงม้า ท่อไอดีออกแบบใหม่เพื่อให้อากาศไหลเข้าเครื่องยนต์เร็วขึ้น ระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์มอนไดออกไซด์ไม่เกิน 99 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีลดลงที่ 14% (แต่ทั้งนี้แอททราจยังถือว่าเป็นรถยนต์ Eco Car Phase 1 ที่เข้าข่ายอัตราภาษีเดิมที่ 17% อย่างไรก็ดี อาจต้องรอทางต้นสังกัดออกมาประกาศถึงเงื่อนไขอื่นๆ ต่อไป)
ราคาเริ่มต้น 456,000 บาท
ที่มาภาพ : http://www.mitsubishi-motors.co.th
TOYOTA YARIS
เข้าโครงการรถเล็กประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลของรัฐบาลเมื่อปี 2013 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันด้วยดีไซน์สปอร์ตลงตัว มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3NR-FE ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า อัตราการปล่อยก๊าซคาร์มอนไดออกไซด์ไม่เกิน 118 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีเท่าเดิมที่ 17%
ราคาเริ่มต้น 469,000 บาท
ที่มาภาพ : http://www.toyota.co.th/yaris/#/home
SUZUKI CELERIO
อีโค่คาร์สายพันธุ์ใหม่จากซูซูกิภายใต้นิยาม “คุ้มด้วยความสามารถเกินตัว พาคุณไปได้ทุกเส้นทาง” เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2014 อีโค่คาร์ที่มาพร้อมภาพลักษณ์ใหม่ของคอมแพ็คคาร์ ชูจุดขายเป็นห้องโดยสารกว้างและเน้นการประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เครื่องยนต์ 3 สูบ K10B 12 วาล์ว ประหยัดน้ำมันที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์มอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีเท่าเดิมที่ 17%
ราคาเริ่มต้น 363,000 บาท
ที่มาภาพ : http://www.suzuki.co.th/webpage/celerio/index.html
SUZUKI CIAZ
นับว่าเป็นรถอีโค่คาร์รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม เมื่อปีที่ผ่านมา ยังคงชูจุดขายด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง พื้นที่เก็บสัมภาระที่ใหญ่ถึง 565 ลิตร และแน่นอนว่ายังคง “ความประหยัด” ไว้เหมือนเดิม มาพร้อมเครื่องยนต์ K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 92 แรงม้า ประหยัดน้ำมันที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์มอนไดออกไซด์ไม่เกิน 125 กรัมต่อกิโลเมตร
สำหรับรุ่นนี้อาจต้องติดตามกันต่อไปว่าจะได้รับอัตราภาษีในช่วงใด รอเช็คภาษีรถยนต์ เนื่องจากรายชื่อบรรจุอยู่ในโครงการ Eco Car จริง แต่มีระดับการปล่อยก๊าซคาร์มอนไดออกไซด์ที่เกินข้อกำหนด 120 กรัมต่อกิโลเมตร
ราคาเริ่มต้น 484,000 บาท
ที่มาภาพ : http://www.suzuki.co.th/webpage/ciaz/
MAZDA 2 DIESEL
เป็นรถยนต์ Eco Car ที่บรรจุอยู่ในหมวด Phase 2 (คืออีโค่คาร์ที่มีอัตราการปล่อยไอเสียต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร และมีระบบ Active Safety เป็นข้อกำหนดที่จำเป็นต้องมีในทุกรุ่น) ออกมาทั้งหมด 2 รุ่น ทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็คกับการออกแบบทีไม่ต่างไปจากที่ผ่านมานัก มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กในรถยนต์นั่งครั้งแรกของไทย ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า มีอัตราประหยัดสูงสุดที่ 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 100 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีลดลงที่ 14%
ราคาเริ่มต้น 654,000 บาท
MAZDA 2 GASOLINE
หลังจากมาสด้าสองรุ่นดีเซลเปิดตัวไปหลังปีใหม่ของปี 2015 ได้ไม่นาน มาสด้าไม่รอช้าเปิดตัวรุ่นเบนซินตามมาในเดือนมีนาคม เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จ เครื่องยนต์ยังเป็น Skyactiv-D แต่เปลี่ยนจากระบบดีเซลเป็นเบนซิน มีอัตราประหยัดสูงสุดที่ 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 100 กรัมต่อกิโลเมตร
รุ่นนี้จะได้รับอัตราภาษีลดลงที่ 14%
ราคาเริ่มต้น 550,000 บาท
ที่มาภาพ : http://www.mazda.co.th/cars/all-new-mazda2-sedan/features/performance/
และนี่ก็คือ Eco Car ทั้งหมด 13 รุ่นที่จะไม่ได้รับผลจากการปรับอัตราภาษีรถยนต์แบบใหม่ อย่างไรก็ดี มีเพียงในส่วนของค่ายมาสด้าและฮอนด้าที่ได้ทำการปรับลดราคาลงแล้ว ส่วนค่ายอื่นๆ เราอาจต้องติดตามกันต่อไป
ประกันรถยนต์ออนไลน์ 24 ชั่วโมง พร้อมรับทุกเหตุฉุกเฉินของคุณ คลิกเช็คเบี้ย!